เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่กระทรวงคมนาคม นายสันติ ปฏิภาณรัตน์ นายกสมาคมผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า EV รับจ้างสาธารณะ พร้อมด้วย นายอนุวัตร ยาวุฒิ นายกสมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า และสมาชิก กว่า 30 คน มายื่นหนังสือถึง นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะรักษาการ รมว.คมนาคม เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของรถจักรยานยนต์ (จยย.) รับจ้างสาธารณะ และเร่งรัดติดตามการปฏิบัติตามกฎกระทรวงรถยนต์รับจ้างระบบอิเล็กทรอนิกส์และการปรับอัตราค่าโดยสาร โดยมี นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เข้ารับหนังสือ และร่วมประชุม
นายสันติ เปิดเผยว่า เนื่องจากสมาคมฯ ได้ทำหนังสือร้องเรียนในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนมาหลายปีและหลายฉบับ ซึ่งปัจจุบันปัญหาหลายเรื่องยังไม่ได้รับการแก้ไขให้แล้วเสร็จ ประกอบด้วย 5 ข้อดังนี้ 1.ขอให้ทบทวนเรื่องหมวดรถ จยย.ส่วนบุคคล หรือป้ายขาว ที่นำมาจดทะเบียนเป็นป้ายสาธารณะ หรือป้ายเหลือง วิ่งผ่านแอปพลิเคชัน และเรื่องเสื้อกั๊ก ที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งว่า ได้ส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว แต่ยังไม่ทราบผล
2.ขบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ได้ประกาศรับรองแอปพลิเคชั่นสำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท แกร็บ (Grab) แล้ว แต่ปัจจุบันบริษัทยังนำรถผิดกฎหมายมาให้บริการอยู่ ซึ่งเป็นการนำรถผิดกฎหมายมาแข่งขันแบบไม่เป็นธรรมกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่อยู่ในระบบ 3.บริษัทแกร็บยังสนับสนุนให้สมาชิกมารับผู้โดยสารที่หน้าวิน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กะบผู้ขับขี่วินทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งที่มีประกาศออกมาชัดเจนว่า ห้ามรถ จยยคำพูดจาก เล่นเกมสล็อต. รับจ้างให้บริการผ่านแอปพลิเคชันมารับผู้โดยสารที่หน้าวิน แต่บริษัทยังให้สมาชิกมารับหน้าวินเหมือนเดิม 4.เมื่อไหร่ ขบ. จะบังคับใช้กฎหมายกับบริษัทแกร็บให้หยุดนำรถผิดกฎหมายมาให้บริการเสียทีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และ 5.ให้เร่งรัดขึ้นทะเบียนวิน และผู้ขับขี่รถ จยย.สาธารณะใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพวิน จยย.รับจ้างเข้ามาสู่ระบบ
ด้าน นายอนุวัตร กล่าวว่า ด้วยสมาคมฯ เป็นหนึ่งในสมาคมที่เห็นด้วยในการออกกฎกระทรวงรถยนต์รับจ้างระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างมาแข่งขันอย่างเท่าเทียมกับาอาชีพแท็กซี่ โดยกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 64 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน เพื่อนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาจดทะเบียนเป็นรถรับจ้าง สมาคมฯ จึงไม่มีข้อเรียกร้องใด ๆ แต่จากข้อมูล ขบ. เมื่อเดือน ก.พ.66 ปรากฏว่า มีรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างเพียง 537 คัน สมาคมฯ จึงมีความเห็นว่า บริษัท แอปพลิเคชัน ไม่มีความจริงใจ ในการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเป็นรถรับจ้าง อีกทั้งการปรับอัตราค่าโดยสารครั้งที่ผ่านมา กฎกระทรวงรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ควรได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ สมาคมฯ ขอให้เร่งรัดดำเนินการ 3 ข้อดังนี้
1.กระทรวงคมนาคม และ ขบ. จะมีมาตรการใด หากแอปยังนำรถยนต์ส่วนบุคคลที่ยังไม่ได้จดทะเบียนรับรองเป็นรถรับจ้างให้บริการผ่านแอป 2.การนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างผ่านแอป โดยที่ไม่นำไปจดทะเบียน สมาคมฯ เห็นว่าทำให้ผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากผู้ใช้บริการลดลงไปใช้บริการรถที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นกระทรวงคมนาคม และ ขบ. จะดำเนินมาตรการอย่างไรที่จะนำรถยนต์ที่ผิดกฎหมายออกจากแอป
นายอนุวัตร กล่าวต่อว่า และ 3.กฎกระทรวงรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ซึ่งใช้มายาวนานและเป็นข้อความเดิมๆ ควรออกกฎกระทรวงรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนขึ้นมาใหม่ให้ทันกับสถานการณ์ และขอให้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 1 คณะ เพื่อศึกษาในการปรับอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้ได้อัตราค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ดังนั้นขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ภายหลังประชุมกระทรวงคมนาคมได้นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาและจะประชุมภายในร่วมกับ ขบ. อีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุป หลังจากนั้นกระทรวงคมนาคมจะนัดสมาคมผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้าEVรับจ้างสาธารณะ และสมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อร่วมประชุมในการดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวต่อไป